วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561

บันทึกเข้าชม Tokyo National Museum: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดย: สุริยะ ฉายะเจริญ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ผมและเพื่อนนิสิตปริญญาเอก คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ไปเยี่ยมชม Tokyo National Museum หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) เขตไทโต (Taito) กรุงโตเกียว

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียวเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่มีหลายอาคาร มีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุและงานศิลปะโบราณต่างๆ ของญี่ปุ่น และรวมไปถึงผลงานโบราณวัตถุและงานศิลปะโบราณต่างๆ ของทั่วโลก ทั้งที่มีในแหล่งสะสมและยืมมาจัดแสดง เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม

          ในวันที่ผมได้ไปเยือนนั้น เราได้ชมนิทรรศการขนาดใหญ่ 5 นิทรรศการ ที่ผมใช้เวลาทั้งวันในการเข้าชมแต่ละนิทรรศการอย่างตื่นตาตื่นใจ ซึ่งประกอบไปด้วย Echoes of a Masterpiece: The Lineage of Beauty in Japanese Art (นิทรรศการสะท้อนของผลงานชิ้นเอก: สายเลือดแห่งความงามในศิลปะญี่ปุ่น) Japanese Archaeology: History Unearthed (นิทรรศการโบราณคดีญี่ปุ่น: ประวัติศาสตร์ค้นพบ) Treasures from Ninnaji Temple and Omuro (นิทรรศการสมบัติจากวัดนินนาจิและโอมุโระ) Roads of Arabia: Archaeological Treasures of Saudi Arabia (นิทรรศการถนนแห่งอาระเบีย: โบราณคดีสมบัติของซาอุดีอาระเบีย) และ Asian Art Gallery: Toyokan (นิทรรศการในหอศิลป์แห่งเอเชีย: โทโยคัน)








Echoes of a Masterpiece: The Lineage of Beauty in Japanese Art
(นิทรรศการสะท้อนของผลงานชิ้นเอก: สายเลือดแห่งความงามในศิลปะญี่ปุ่น)

นิทรรศการสะท้อนของผลงานชิ้นเอก: สายเลือดแห่งความงามในศิลปะญี่ปุ่น จัดเพื่อฉลองครบรอบ 130 ปีของ KOKKA และครบรอบ 140 ปีของ Asahi Shimbun Echoes จากผลงานศิลปวัตถุชิ้นเอกในญี่ปุ่น

นิทรรศการนี้จัดแสดงผลงานศิลปวัตถุประเภทต่างๆ โดยแบ่งประเภทและยุคสมัยได้อย่างน่าสนใจ ทางผู้จัดติดตั้งผลงานที่สัมพันธ์กับพื้นที่ในการนำเสนอได้อย่างงดงาม ผมในฐานะผู้เข้าชมจึงสัมผัสได้ถึงความงามที่ปรากฏตามร่องรอยของวัตถุทางวัฒนธรรมที่ส่งผ่านมาถึงปัจจุบัน เป็นการสัมผัสความงามและคุณค่าผ่านกาลเวลาและทำให้เราตระหนักถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างไม่ยาก

ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้เยี่ยมชมนิทรรศการนี้จำนวนไม่น้อยได้สาระทั้งทางศิลปกรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นในยุคเก่าที่ผ่านห้วงเวลาต่างๆ พอสังเขปทีเดียว ผู้ชมได้เห็นร่องรอยของอารยธรรมที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งแม้ญี่ปุ่นจะเป็นเพียงประเทศที่มีเกาะและตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ก็ตาม แต่นั่นเป็นข้อดีที่ทำให้วัตถุทางวัฒนธรรมเหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่มาก และนำมาจัดแสดงสู่สายตาแก่พวกเราและอนุชนรุ่นหลังให้เกิดการตระหนึกถึงคุณค่าของมนุษย์ชาติ โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ








 



Japanese Archaeology: History Unearthed
นิทรรศการโบราณคดีญี่ปุ่น: ประวัติศาสตร์ค้นพบ

ในชั้น 1 ของอาคารใหญ่ด้านขวาเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการโบราณคดีญี่ปุ่น: ประวัติศาสตร์ค้นพบ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงโบราณวัตถุอันมีค่ามากมายที่เก่าแก่นับพันปี อันแสดงให้เห็นถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณได้อย่างน่าสนใจ


 






Treasures from Ninnaji Temple and Omuro
นิทรรศการสมบัติจากวัดนินนาจิและโอมุโระ

นิทรรศการนี้เป็นการนำศิลปวัตถุอันมีค่าของวัดวัดนินนาจิและโอมุโระมาจัดแสดง โดยวัดนินนาจิเป็นอารามหลักของสาขาโอมุโระ (Omuro) ของนิกายชินงอน (Shingon) ก่อตั้งขึ้นด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้าของของจักรพรรดิโคโกะในปี ค.ศ. 886 และเสร็จสมบูรณ์ภายใต้รัชสมัยจักรพรรดิอุดะ (Uda) ในปี ค.ศ. 888 หลังจากนั้นพระจักรพรรดิองค์ต่อไปถือเป็นสาวกของพระอารามแห่งนี้ วัดนี้ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกซึ่งเป็นหนึ่งใน "อนุสรณ์สถานโบราณสถานของเมืองเกียวโต"
นิทรรศการนี้จัดแสดงศิลปวัตถุอันเป็นสมบัติอันสูงค่าของวัดนินนาจิ พร้อมกับประติมากรรมพระพุทธรูปและสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าอื่น ๆ ที่เก็บรักษาไว้ที่วัดของสาขา โดยผู้ชมได้สัมผัสความงามที่ควบคู่ไปกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดแสดงด้วยแสงและพื้นที่ๆ สวยงาม เป็นที่น่าสนใจของผู้คน โดยวันที่เราไปดูนี้มีผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมาดูผลงานอย่างล้นหลามไม่น่าเชื่อ ต่างกับเมืองไทยบ้านเราลิบลับที่คนไทยน้อยคนจะใส่ใจในศิลปวัตถุล้ำค่าของบ้านเราเอง คนไทยน่าเอาเยี่ยงอย่างการให้ความสำคัญกับศิลปะและวัฒนธรรมของเราให้มากกว่าที่เป็นอยู่มากกว่านี้



Roads of Arabia: Archaeological Treasures of Saudi Arabia
นิทรรศการถนนแห่งอาระเบีย: โบราณคดีสมบัติของซาอุดีอาระเบีย

สำหรับนิทรรศการถนนแห่งอาระเบีย: โบราณคดีสมบัติของซาอุดีอาระเบีย เป็นการจัดแสดงศิลปวัตถุล้ำค่าสมัยโบราณของคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งคาบสมุทรอาหรับเป็นจุดเชื่อมต่อของเส้นทางการค้าทำหน้าที่เป็นทางแยกของประชาชนที่หลากหลายวัฒนธรรม

นิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นจัดแสดงสมบัติจากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ซึ่งแสดงถึงประวัติศาสตร์และความเป็นไปทางวัฒนธรรมที่พบจากคาบสมุทรอาหรับที่เป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่ากว่า 400 ชิ้นซึ่งรวมถึงเครื่องมือหินที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียย้อนหลังไปนับหมื่นปี วัตถุอันเป็นหลักฐานของอารยธรรมมนุษย์ยุคเหล็กที่สร้างขึ้นในทะเลทรายราว 5,000 ปีที่ผ่านมา การขุดค้นสิ่งประดิษฐ์จากเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองของยุคของอารยธรรมกรีกสมัยเฮเลนนิสติก (Hellenistic) วัตถุที่แสดงร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันที่ได้จากกาบา (Ka'ba) ในเมืองเมกกะ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม และสมบัติของกษัตริย์อับดุลซาซิซ กษัตริย์ในยุคโบราณแห่งซาอุดีอาระเบีย

ทั้งหมดนี้ถือเป็นนิทรรศการที่สำคัญที่ชาวญี่ปุ่นและผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกผ่านร่องรอยจากวัตถุอันทรงคุณค่าของมนุษยชาติ










Asian Art Gallery: Toyokan
นิทรรศการในหอศิลป์แห่งเอเชีย: โทโยคัน

ในส่วนของอาคารนิทรรศการในหอศิลป์แห่งเอเชีย: โทโยคัน มีการจัดแสดงศิลปวัตถุและสิ่งประดิษฐ์จากภูมิภาคต่างๆ ของเอเชีย เช่น อารยธรรมจีน อินเดีย เกาหลี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง และรวมไปถึงอียิปต์

ณ ที่นี่ ผมได้ชมมัมมี่และหีบศพสมัยอียิปต์ของจริง ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมและเพื่อนๆ ได้ชมกัน นอกจากนี้ยังได้ชมพระพุทธรูปศิลปะคันธาระ (Gandhara) อันเป็นยุคแรกเริ่มสร้างพระพุทธรูปในโลก ซึ่งสำหรับผมแล้วการได้ชมพระพุทธรูปแบบคันธาระเป็นของขวัญในวันนี้ไม่น้อย เพราะผมมีรสนิยมส่วนตัวที่ชื่นชมในพระพุทธรูปในรูปแบบนี้มาก เพราะเป็นประติมากรรมที่แสดงรอยต่อระหว่างศิลปะกรีกสมัยเฮเลนนิสติกกับคติพุทธศาสนาเมื่อราวพันกว่าปีที่ผ่านมา  
นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุที่สวยงามมีคุณค่าอันประเมินไม่ได้ของเอเชียและใกล้เคียงอีกนับหลายร้อยชิ้น อันเป็นเครื่องหมายถึงการยืนยันว่ามนุษยชาติของเรามีอารยธรรมที่พัฒนามาอย่างไรบ้าง ซึ่งทำให้มโนทัศน์ของผลเชื่อมร้อยความรู้ต่างๆ ให้เห็นภาพรวมของอารยธรรมโลกที่มีความสัมพันธ์ต่อกันผ่านร่องรอยของวัตถุทางประวัติศาสตร์มานับเวลาหลายพันปี














สุดท้าย ผมและเพื่อนๆ ก็ได้กลับออกมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียว ในเวลาค่ำ ก่อนที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียวจะปิดไม่กี่นาที พวกเราเดินเข้าสู่สวนสาธารณะอุเอโนะเพื่อไปที่พักท่ามกลางอากาศหนาวราว 2-4 องศาเซลเซียส โดยเต็มอิ่มกับการเข้าชมศิลปะวัตถุในวันนี้ทั้งวันนับหมื่นๆ ชิ้น ซึ่งผมคิดโดยส่วนตัวว่าหากมีโอกาส คุณๆ ผู้อ่านที่นิยมชมชอบในศิลปะ โบราณคดี และพิพิธภัณฑ์ทั้งหลาย ควรมาเยี่ยมเยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียวสักครั้ง เพื่อเติมเต็มความรู้อันหลากหลายที่จะทำให้เราได้ตระหนักถึงอารยธรรมของญี่ปุ่นและของโลกเราใบนี้ว่ามีคุณค่ามากแค่ไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น