วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

กระบวนการสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557”

กระบวนการสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557”
The process of creating a drawing of the "Manila 2014"
โดย: สุริยะ ฉายะเจริญ
อาจารย์ประจำ ภาควิชาสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม 38 ถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160 ประเทศไทย
*เผยแพร่ผ่าน 
วารสารนิเทศสยามปริทัศน์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 16 ประจำปี 2558 (หน้า 13-22) 
สามารถดาวโหลดวารสารฉบับเต็มได้ตาม link นี้ https://drive.google.com/…/0B-yjmqS8beIWUU5PNW5nLWpabnM/view
บทคัดย่อ
            บทความนี้นำเสนอกระบวนการสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด มะนิลา 2557 ที่ได้ผลิตขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ผู้เขียนได้เดินทางไปเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการผลิตงานสร้างสรรค์อันถือเป็นผลงานทางวิชาการและยังเป็นการนำองค์ความรู้ที่ได้จากการผลิตผลงานสร้างสรรค์ไปพัฒนาการเรียนการสอน ซึ่งภาพวาดเส้นชุดนี้เป็นการการสร้างภาพแทนความหมายที่สื่อถึงเมืองมะนิลาที่อยู่ในรูปของสถาปัตยกรรม วัตถุแห่งความศรัทธา และยานพาหนะอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยใช้รหัสเชิงสุนทรียะเป็นกฎเกณฑ์ที่สำคัญในการสื่อความหมาย ภาพวาดเส้นแต่ละภาพได้กำกับความหมายด้วยข้อความที่เขียนขึ้นเป็นตัวอักษรประกอบกับภาพวาดเส้นด้วย ขณะเดียวกันภาพวาดเส้นชุดนี้มิได้สื่อถึงเรื่องของช่วงเวลาด้วยความหมายของลายเส้น แต่จะถูกกำกับความหมายเรื่องเวลาด้วยตัวเลขและตัวอักษรที่เขียนขึ้นประกอบ
Abstract
This article presents the process of creating a drawing of the "Manila 2014"was produced by inspiration, the author has traveled to Manila, The Philippines. The objective is to produce a creative academic performance and also introduced knowledge of creative works to improve teaching and learning. This drawing are a visual representation that reflects the city of Manila in the form of architecture, object of faith and the vehicle is outstanding. The rules aesthetic code is the key to communication. Each drawing has directed the meaning of written text into text with line drawings as well. Meanwhile, a series of drawings does not convey the meaning of the moment with stripes. But the time is marked with numbers and letters written composition.
บทนำ
เมื่อกล่าวถึงภาพวาดที่ใช้สีเดียวหรือใช้สีเอกรงค์ (Monochromes) นับเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีขึ้นมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ภาพวาดบนผนังถ้ำ เป็นต้น ผลงานภาพวาดสีเดียวหรือสีเอกรงค์นี้เรียกว่า “ภาพวาดเส้น” (Drawing) หรือ “ภาพลายเส้น” ก็ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดรูปในการวาดเส้น ก็คือ เส้น (Line) (น. ณ ปากน้ำ 2543: 33) ภาพวาดเส้นถือเป็นการแสดงออกทางศิลปะในรูปแบบ 2 มิติขั้นพื้นฐาน และยังสามารถสื่อถึงเนื้อหาอันเกิดจากแรงบันดาลใจและความประทับใจของผู้สร้างสรรค์ให้ถ่ายทอดออกมาได้ตรงและชัดเจนอย่างที่สุด 
ภาพวาดเส้นหรือภาพลายเส้นจึงเป็นผลที่เกิดจากกระบวนการสร้างสรรค์ที่เป็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ปรากฏเป็นร่องรอยของการกระทำนั้นบนพื้นที่ว่างบนวัตถุหนึ่งๆ ซึ่งร่องรอยดังกล่าวอาจจะประกอบไปด้วย จุด (dot) เส้น (line) สี (color) รูปร่าง (shape) รูปทรง (form) หรือพื้นผิว (texture) ล้วนไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ หากแต่เกิดขึ้นจากเจตจำนงของผู้สร้างสรรค์ที่ทำการบันทึกสภาวะของความเป็นจริงที่เกิดขึ้นลงไปบนพื้นที่ว่างนั้น โดยที่ความเป็นจริงนั้นก็ไม่ใช่แค่เพียงความจริงในทางกายภาพของวัตถุเท่านั้น หากแต่รวมไปถึงสภาวะความเป็นจริงของอารมณ์ความรู้สึก (emotion) หรือแม้แต่กระบวนความคิด (conceptual) ของผู้สร้างสรรค์ด้วย ดังที่นอร์แมน ไบร์สัน (Norman Bryson) ได้เขียนเอาไว้ว่า จิตรกร(ผู้ผลิตงานสร้างสรรค์) เป็นผู้พินิจด้วยการจ้องมองและสร้างรูปทรงซึ่งเป็นการสื่อสารด้วยลายเส้นในจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งจากการสังเกตอย่างสมบูรณ์ตามทัศนะจนเกิดเป็นจุดสนใจที่กระตุ้นผู้ดูกระหายที่จะจ้องมองซ้ำอีกครั้ง(Norman Bryson, Michael Ann Holly and Keith Moxey 1991: 63)
ผลงานวาดเส้นเป็นการนำเสนอในแง่มุมของความงาม ความสะเทือนทางอารมณ์ความรู้สึก และความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการสื่อสารความหมาย ซึ่งภาพวาดเส้นไม่เพียงอยู่ภายใต้ร่มเงาของบริบททางทัศนศิลป์ (Visual Art) เท่านั้น เพราะในมิติของการสื่อสาร (communication) นั้น วาดเส้นก็ยังคงทำหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวสื่อ (media) และตัวสาร (massage) ผ่านเครื่องหมายหรือสัญญะ (sign) ที่ถูกประกอบขึ้นเป็นรูปลักษณ์ (image) บางอย่าง เช่น ผลงานวาดเส้นที่ปรากฏบนจิตรกรรมฝาผนัง คัมภีร์ทางศาสนา หนังสือหรือตำราความรู้ต่างๆ ในอดีต ขณะที่ในยุคสมัยใหม่ ภาพลายเส้นมีบทบาททั้งการเป็นภาพประกอบ (illustration) แล้วยังถูกใช้ในบริบทของภาพการ์ตูน (cartoon/ comic) และรวมไปถึงการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวหรือภาพยนตร์อะนิเมชั่น (animation) อีกด้วย
บทความนี้เป็นการนำเสนอกระบวนการสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557ที่ผู้เขียนได้ผลิตขึ้นอย่างมีระเบียบวิธีการที่สอดคล้องกับการศึกษาเพื่อค้นคว้าหาองค์ความรู้ที่ได้จากการผลิตผลงานสร้างสรรค์ อันประกอบไปด้วยวัตถุประสงค์ ขอบเขต ประโยชน์ที่คาดว่าได้รับ แรงบันดาลใจ แนวคิด ขั้นตอนการสร้างสรรค์ และองค์ความรู้ที่ได้รับจากการสร้างสรรค์ รวมไปถึงข้อเสนอแนะ เพราะฉะนั้นบทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการอธิบายกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานชุดดังกล่าวเพื่อประโยชน์ทางวิชาการที่จะได้อธิบายในลำดังถัดไป
วัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์
เพื่อเป็นการผลิตผลงานสร้างสรรค์อันถือเป็นผลงานทางวิชาการที่มีคุณค่าเทียบเท่ากับงานวิจัยและยังเป็นการนำองค์ความรู้ที่ได้จากการผลิตผลงานสร้างสรรค์ไปพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชา 144-335 พื้นฐานการ์ตูน ซึ่งอยู่ภายใต้หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสื่อดิจิทัล มหาวิทยาลัยสยาม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2555)
ขอบเขตการสร้างสรรค์
ผลงานสร้างสรรค์นี้ผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการวาดเส้นโดยมีชื่อชุด มะนิลา 2557 ผลิตขึ้นขึ้น ณ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ภาพ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ผลงานสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557 เป็นการผลิตผลงานสร้างสรรค์อันถือเป็นผลงานทางวิชาการที่มีคุณค่าเทียบเท่ากับงานวิจัยและยังเป็นการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากกระบวนการสร้างสรรค์ไปพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชา 144-335 พื้นฐานการ์ตูน ซึ่งอยู่ภายใต้หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสื่อดิจิทัล มหาวิทยาลัยสยาม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2555) ตามวัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์อีกด้วย
แรงบันดาลใจ
ภาพวาดเส้นชุด มะนิลา 2557” (Manila 2014) เป็นผลงานสร้างสรรค์ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ภาพ ซึ่งผู้เขียนได้ผลิตขึ้นขณะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ผลงานชุดนี้เป็นภาพวาดเส้นทิวทัศน์ที่ใช้ลายเส้นเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรูปร่างโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นภาพวาดลายเส้นที่แทนความหมายของสถานที่ใดสถานที่หนึ่งอันจะสื่อไปถึงเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ภาพวาดเส้นนี้ไม่เพียงนำเสนอคุณค่าในบริบทของการแสดงออกทางทัศนศิลป์เท่านั้น แต่ยังถือเป็นกระบวนการผลิตตัวสื่อและตัวสารภายใต้บริบทของศาสตร์ทางด้านการสื่อสารด้วย
แนวคิดที่เกี่ยวข้อง
แนวคิดภาพวาดเส้น
ภาพวาดเส้น คือ ภาพที่เกิดขึ้นจากผลของการที่วัตถุหนึ่งกระทำบางสิ่งบางอย่างไปบนวัตถุหนึ่งที่เป็นระนาบ โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นร่องรอยที่อยู่ในรูปของจุด เส้น หรือสี ซึ่งร่องรอยนั้นก็นำไปสู่การประกอบขึ้นเป็นรูปร่าง รูปทรง หรือพื้นผิว เพื่อสะท้อนความงาม (beauty) ความรู้สึก (emotion) และความคิด (conceptual) ของผู้สร้างสรรค์  วาดเส้นนั้น “อาศัยธรรมชาติเป็นแม่แบบในการเกิดแรงบันดาลใจ (inspiration) หลังจากเกิดความประทับใจ (impression) แล้ว จากนั้นจึงกลั่นกรองความงามของธรรมชาติให้เกิดจินตนาการเป็นอารมณ์สะเทือนใจ (emotion) แล้วจึงถ่ายถอนอารมณ์ความรู้สึกลงไปในงานศิลปะ (expression)” (น. ณ ปากน้ำ 2543: 127) การวาดเส้นจึงถือว่าหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์ศิลปะประเภททัศนศิลป์ (สมพร รอดบุญ  ใน สูจิบัตรนิทรรศการ Multiple drawing 2535: ไม่ปรากฏเลขหน้า)
ภาพวาดเส้นชุด มะนิลา 2557 นี้เป็นการวาดเส้นที่มีมีวัตถุประสงค์เพื่อ “บันทึกข้อเท็จจริง” (ชลูด นิ่มเสมอ 2553: 25)  ซึ่งก็คือกระบวนการวาดเส้นที่มีเป้าหลายหลักอยู่ที่การบันทึกข้อเท็จจริงทางกายภาพด้วยกระบวนการวาดด้วยเส้น แต่ข้อเท็จจริงที่ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานวาดเส้นนั้นมิใช่ความเหมือนจริงแบบภาพถ่าย แต่เป็นการเข้าไปถึงแก่นของความจริงของวัตถุต่างๆ โดยการวาดด้วยเส้น (Line Drawing หรือ Delineation Drawing) ซึ่งเน้นเฉพาะการใช้ลายเส้นในการแสดงออกเท่านั้น  (สงวนศรี ตรีเทพประติมา, 2555: 22)  ผลงานในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้ลายเส้นเป็นธาตุสำคัญในการนำเสนอสุนทรียะและการสื่อสารความหมาย
แนวทางการศึกษาเชิงสัญวิทยา
สัญวิทยา (semiology) หรือสัญศาสตร์ (semiotic) คือ สาขาวิชาที่ศึกษาระบบของสัญญะ (a system of sign) หรือศาสตร์ว่าด้วยสัญญะ (a science of sign) (ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร, 2555: 8) สัญญะ (sign) คือสิ่งต่างๆ ที่อาจจะอยู่ในรูปของคำ ภาพ เสียง กลิ่น รส การกระทำ และวัตถุต่างๆ ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายอะไรในตัวเอง แต่จะกลายสภาพมาเป็นสัญญะทันทีที่เราสร้างความหมายให้กับมัน เพราะฉะนั้นสิ่งๆ หนึ่งจะมีความหมายได้ก็เพราะมันมีการสื่อความหมายบางอย่างนั่นเอง
โซซูร์ (Ferdinand de Saussure) ได้เสนอว่า สัญญะมีส่วนประกอบอยู่ 2 ส่วน คือ “ตัวหมาย (Signifier) แทนเสียง-ภาพ และสิ่งที่ถูกหมาย (Signified) แทนความคิด (concept) ดังนั้นในสัญญะหนึ่งๆ จึงแยกเป็นสองส่วนเสมอ” (ธีรยุทธ บุญมี, 2551: 64-65) ในขณะที่เพียซ (Charles Sanders Peirce) แบ่งสัญญะออกเป็น 3  ประเภท (Anne D'Alleva, c2012: 28-29) ได้แก่
1.สัญลักษณ์ (Symbol) คือ ตัวหมาย (Signifier) ที่บริสุทธิ์ไม่มีลักษณะที่เกี่ยวโยงกับกับสิ่งที่ถูกหมาย แต่เกิดความหมายได้จากการมีตกลงบางอย่าง เช่น ตัวอักษร, ตัวเลข, สัญญาณจราจร, ฯลฯ
2.ภาพเสมือน (Icon) คือ ตัวหมาย (Signifier) ที่มีความเหมือนหรือเลียนแบบหรือมีความคล้ายในบางส่วนของสิ่งที่ถูกหมาย (Signified) เช่น ภาพเหมือนบุคคล, เครื่องบินจำลอง, ฯลฯ
3.ดัชนี (Index) คือ ตัวหมาย (Signifier) ที่เกี่ยวโยงกับเหตุผล มีการเชื่อมโยงโดยตรงในทางใดทางหนึ่งกับสิ่งที่ถูกหมาย (Signified) สามารถที่จะรับรู้ได้โดยการสังเกตหรือมีข้อสรุปบางอย่าง เช่น อาการทางการแพทย์, ควันไฟ, รอยเท้า, ฯลฯ
เมื่อสัญญะแต่ละตัวมาผสมกันจนเกิดเป็นการจัดการภายใต้กฎเกณฑ์อันเป็นที่ยอมรับซึ่งเรียกว่า รหัส” (code) รหัสถือกระบวนการที่ใช้ในการสร้างความหมายขึ้นมา (มณเฑียร ศุภโรจน์, 2541: 19) ในกรณีกระบวนการสร้างสรรค์ภาพวาดเส้นชุด มะนิลา 2557นี้ได้มุ่งประเด็นไปที่รหัสเชิงสุนทรียะ (Aesthetic Code) ซึ่งมีความหลากกลายในการให้ความหมาย กระบวนการเข้ารหัสและถอดรหัสมีลักษณะเป็นอัตวิสัย (subjective) ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ฟิส์ก (John  Fiske) ได้อธิบายเอาไว้ว่า “รหัสเชิงสุนทรียะเป็นสิ่งที่ยากจะหาคำจำกัดความเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่มีความหลากหลาย มีข้อจำกัดที่น้อย และเปลี่ยนแปลงได้เร็ว มันเป็นสิ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากบริบททางวัฒนธรรมของตัวมันเอง อีกทั้งยังมีลักษณะที่อนุญาตหรือเชิญชวน รวมไปถึงต่อรองลักษณะของความหมาย การถอดรหัสที่เบี่ยงเบนไปจากมาตรฐาน รหัสเชิงสุนทรียะสามารถแสดงออกถึงสิ่งที่ถูกปกปิดอยู่ภายในจิตใจอันเป็นโลกของอัตนัย อีกทั้งยังสามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีและมีความหมายในตัวเองผ่านรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับความคิด” (1990: 80-81) “รหัสนี้มีแนวโน้มส่งเสริมลักษณะของความหมายแฝง (connotation) และความหลากหลายของการตีความ (interpretation) ซึ่งตรงกันข้ามกับหลักทางตรรกะ (logical) หรือรหัสเชิงวิทยาศาสตร์ (scientific codes) ที่พยายามที่จะลดคุณค่าลักษณะดังกล่าวนี้” (Termwiki, Aesthetic codes 2014: ระบบออนไลน์)  เพราะฉะนั้นการศึกษาระบบของสัญญะก็คือการศึกษาการทำงานของรหัส ซึ่งรหัสเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่กระบวนการสร้างความหมายขึ้นนั่นเอง
ขั้นตอนการสร้างสรรค์
1.       ผู้เขียนเดินทางไป ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines)
2.       ทำการสำรวจเก็บข้อมูล ณ สถานที่ต่างๆ เพื่อผลิตผลงานสร้างสรรค์
3.       เนื่องจากผลงานสร้างสรรค์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์การนำเสนอในรูปแบบของภาพวาดเส้นหรือภาพลายเส้นที่บันทึก ณ สถานที่จริง การผลิตผลงานจึงต้องวิเคราะห์ภูมิทัศน์ของสถานที่นั้นๆ โดยเฉพาะในด้านของสิ่งก่อสร้างหรือสถาปัตยกรรม เพราะรูปแบบที่นำเสนอจะเป็นภาพวาดเส้นทิวทัศน์สิ่งก่อสร้าง
4.       ถ่ายภาพเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลภาพจริง
5.       ทำการวาดภาพลายเส้นด้วยเทคนิคปากกาดำบนกระดาษ ซึ่งการวาดลงไปนั้นไม่ได้ทำการร่างภาพด้วยดินสอก่อน แต่เป็นการวาดด้วยเส้นดำของปากกาเลย เส้นที่ปรากฏจึงเกิดขึ้นจากการตอบสนองระหว่างการจ้องมองกับการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพลายเส้นด้วยมือที่ขยับออกมา (ภาพที่ 1)
6.       นอกจากสร้างสรรค์ผลงานเป็นภาพลายเส้นแล้วก็ยังบันทึกด้วยตัวอักษรแบบเขียนด้วยถ้อยความที่บรรยายถึงลักษณะเฉพาะของสถานที่นั้นๆ ประกอบกับบันทึกวันเดือนปีอีกด้วย (ภาพที่ 2)
7.       ผลงานวาดเส้นภาพวาดเส้นชุด มะนิลา 2557 ที่สร้างขึ้นสำเร็จมีจำนวนทั้งสิ้น 18 ภาพประกอบไปด้วย
7.1    ผลงานชื่อ: ป้อมซานติอาโก้ (ภาพที่ 3)
7.2    ผลงานชื่อ: มัสยิดทองแห่งมะนิลา (ภาพที่ 4)
7.3    ผลงานชื่อ: มัสยิดทองแห่งมะนิลา (ภาพที่ 5)
7.4    ผลงานชื่อ: โบสถ์ซานเซบาสเตียนแห่งมะนิลา (ภาพที่ 6)
7.5    ผลงานชื่อ: มหาวิหารเล็กแห่งแบล็คนาซาเร็ธ (ภาพที่ 7)
7.6    ผลงานชื่อ: หอคอยมหาวิหารเล็กแห่งแบล็คนาซาเร็ธกับตึกเมืองมะนิลา (ภาพที่ 8)
7.7    ผลงานชื่อ: อาคารในสลัมเมืองมะนิลา (ภาพที่ 9)
7.8    ผลงานชื่อ: โบสถ์ซานตาครูซแห่งมะนิลา (ภาพที่ 10)
7.9    ผลงานชื่อ: ย่านไชน่าทาวน์ที่มะนิลา (ภาพที่ 11)
7.10ผลงานชื่อ: ตึกสูงเมืองมะนิลา (ภาพที่ 12)
7.11ผลงานชื่อ: ตรอกร้านค้าที่มะนิลา (ภาพที่ 13)
7.12ผลงานชื่อ: ย่านการค้าหน้ามหาวิหารเล็กแห่งแบล็คนาซาเร็ธ (ภาพที่ 14)
7.13ผลงานชื่อ: ร้านค้าโชว์ห่วยที่มะนิลา (ภาพที่ 15)
7.14ผลงานชื่อ: รถม้าที่มะนิลา (ภาพที่ 16)
7.15ผลงานชื่อ: รถจี๊ปนี่ย์ที่มะนิลา (ภาพที่ 17)
7.16ผลงานชื่อ: รถจักรยานสามล้อที่มะนิลา (ภาพที่ 18)
7.17ผลงานชื่อ: ประติมากรรมพระแม่กับพระบุตรในโบสถ์ซานเซบาสเตียนแห่งมะนิลา (ภาพที่ 19)
7.18ผลงานชื่อ: ดาวประดิษฐ์ประดับเทศกาลคริสต์มาส (ภาพที่ 20)
8.       เมื่อผลงานเสร็จสมบูรณ์ก็เก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป โดยเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ
9.       เมื่อกลับมาประเทศไทยแล้ว จึงนำภาพวาดเส้นมาทำการศึกษา
10. หลังจากนั้นจึงเขียนเป็นบทความวิชาการเพื่ออธิบายกระบวนการสร้างสรรค์ ตลอดจนองค์ความรู้ที่ได้รับจากการสร้างสรรค์

ภาพที่ 1 ภาพถ่ายขณะที่ผู้เขียนกำลังปฏิบัติงานในสถานที่จริง ณ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

ภาพที่ 2 ผลงานภาพวาดเส้นที่ถ่ายเปรียบเทียบกับสถานที่จริง
แหล่งข้อมูล
1.       ข้อมูลจากสถานที่จริง เป็นข้อมูลที่เกิดจากการเดินทางไปสำรวจ ณ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีการบันทึกด้วยภาพถ่าย ณ สถานที่จริง ซึ่งข้อมูลภาพถ่ายที่เกิดจากบันทึกสถานที่จริงจะเป็นรูปของทิวทัศน์สิ่งก่อสร้างหรือสถาปัตยกรรมและภาพของการดำเนินชีวิตของผู้คนที่อยู่ ณ พื้นที่นั้นๆ
2.       ข้อมูลจากการบันทึกด้วยภาพลายเส้น ในที่นี้หมายถึงผลงานสร้างสรรค์ภาพลายเส้นที่นำมาศึกษาในบริบทของการเป็นข้อมูล
3.       ข้อมูลจากเอกสารต่างๆ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ข้อมูลเอกสารภาษาไทย ข้อมูลเอกสารภาษาอังกฤษ และข้อมูลออนไลน์


 ภาพที่ 3 

 ภาพที่ 4

 ภาพที่ 5

ภาพที่ 6

  ภาพที่ 7

  ภาพที่ 8

 ภาพที่ 9

 ภาพที่ 10

 ภาพที่ 11

 ภาพที่ 12

 ภาพที่ 13

 ภาพที่ 14

 ภาพที่ 15
 ภาพที่ 16

ภาพที่ 17

 ภาพที่ 18

 ภาพที่ 19

 ภาพที่ 20
องค์ความรู้ที่ได้จากการสร้างสรรค์
1.       ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557 นี้เป็นการสร้างสรรค์ที่ผลิตขึ้นด้วยการใช้แนวคิดและเทคนิคการวาดเส้นด้วยลายเส้น (Line Drawing) โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่ผู้เขียนได้เดินทางไปเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และได้ทำการบันทึกสถานที่และวัตถุที่เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สื่อถึงเมืองมะนิลาอันเป็นเมืองหลวงที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับตั้งแต่อดีต
2.       ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557 ได้ผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดทฤษฎีสัญวิทยาโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างภาพแทนความหมายของความเป็นเมืองมะนิลาโดยทำหน้าที่ทับซ้อนกันระหว่างลักษณะของภาพเสมือนและความเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบริบทการสื่อความหมายของภาพแต่ละภาพ
3.       ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557 สื่อความหมายโดยใช้รหัสเชิงสุนทรียะ (Aesthetic code) เป็นเกณฑ์ในการทำให้แต่ละภาพมีความหมายที่นอกเหนือไปจากตัวเส้นเท่านั้น ซึ่งรหัสในผลงานชุดนี้เป็นการประกอบขึ้นจากเส้นตรงและเส้นโค้งเพื่อให้เกิดเป็นรูปร่าง เพราะฉะนั้นการเข้าใจความหมายตรง(denotation) อันเป็นความหมายขั้นแรกที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวหมายกับสิ่งที่ถูกหมายของภาพแต่ละภาพนั้น ผู้ดูหรือผู้รับสารก็สามารถที่จะตีความได้ไม่ยาก ส่วนการเข้าใจความหมายแฝง (connotation) หรือความหมายขั้นที่สองนั้นเป็นการตีความที่ขึ้นอยู่กับบริบทแต่ละบุคคลว่าสามารถที่จะเข้าใจภาพวาดเส้นชุดดังกล่าวอย่างไร หรือจะกล่าวได้ว่าผลงานวาดเส้นชุดนี้มีการการตีความหมายในแบบอัตวิสัย (subjectivity) โดยเกี่ยวข้องกับประเด็นทางประวัติศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา หรือแม้กระทั่งอารมณ์ความรู้สึกของผู้ดูหรือผู้รับสารเอง ซึ่งรหัสเชิงสุนทรียะเองก็ได้เปิดทางให้การสื่อความหมายในลักษณะของการตีความในแบบอัตวิสัย จึงทำให้ความหมายแฝงนั้นมีลักษณะที่อิสระและสามารถตีความได้หลากหลายนั่นเอง
4.       รูปภาพวาดเส้นแต่ละชิ้นมีความสอดคล้องกับตัวอักษรที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อกำกับความหมาย ซึ่งมีความเหมือนกันกับการสื่อความหมายในหนังสือภาพประกอบ (illustration) หรือหนังสือการ์ตูน (comic) ที่ความหมายของข้อความตัวอักษรมีความเกี่ยวเนื่องหรือเป็นการกำกับความหมายที่เกิดขึ้นจากตัวภาพวาดลายเส้น หรือขณะเดียวกันภาพวาดเส้นนั้นเองก็เป็นการกำกับความหมายที่เกิดขึ้นจากข้อความตัวอักษรด้วย ซึ่งการตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่งของทั้งข้อความตัวอักษรหรือตัวภาพลายเส้นอาจมีผลต่อความเข้าใจความหมายที่ควรจะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
5.       ภาพวาดเส้นที่เป็นเพียงการใช้เส้นอย่างเดียว (line drawing) ไม่สามารถสื่อสารเรื่องของเวลา (timing) ได้ ซึ่งอาจแตกต่างจากการบันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายภาพที่อาจจะสามารถทำความเข้าใจเรื่องเวลาได้ด้วยหลักความชัดเจนของสีหรือทฤษฎีแสง-เงา ในขณะภาพที่ใช้เส้นเป็นภาพที่อยู่ในปริมณฑลของความเป็นอุดมคติที่มิได้ทำการอธิบายเรื่องเวลา เพราะตัวภาพมิได้สื่อด้วยความชัดเจนของสีหรือทฤษฎีแสง-เงาซึ่งก็ทำให้ตัวภาพเองมิอาจจะสื่อความหมายที่เกี่ยวข้องกับเวลาได้ เพราะฉะนั้นการสื่อความหมายเรื่องของเวลาจึงถูกการกำกับความหมายด้วยบริบทอื่นๆ นั้นคือรหัสของตัวเลขและตัวอักษร
สรุป
ภาพวาดเส้นชุด “มะนิลา 2557 ถูกผลิตขึ้นภายใต้บริบทของผลงานทางด้านวิชาการ (งานสร้างสรรค์/งานวิจัย) ผลงานในชุดนี้ไม่เพียงมีคุณค่าในเชิงของทัศนศิลป์เท่านั้น แต่ในบริบทของการสื่อสารนั้น ยังถือเป็นกระบวนการสร้างตัวสื่อและตัวสารที่สำคัญโดยนำเสนอเป็นภาพวาดเส้นหรือภาพลายเส้น ซึ่งองค์ความรู้ที่ได้รับจากกระบวนการสร้างสรรค์นั้นก็สามารถที่จะนำไปพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารด้วยภาพลายเส้นได้ในเรื่องของการนำแนวคิดด้านการสื่อสารมาใช้ในการสร้างผลิตผลงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในวิชาพื้นฐานการ์ตูนและการผลิตการ์ตูน ซึ่งอยู่ภายใต้หลักสูตรของภาควิชาสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
ข้อเสนอแนะ
            แม้ว่าการวาดเส้นจะอยู่ในบริบทของงานทางด้านทัศนศิลป์เป็นสำคัญ แต่หากเชื่อมโยงกับหลักแนวคิดและทฤษฎีทางด้านการสื่อสารก็ทำให้ภาพวาดเส้นนั้นมีความสำคัญเฉกเช่นเดียวกับงานสร้างสรรค์ในสื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งการนำผลงานสร้างสรรค์ประเภทวาดเส้นนี้มาทำการศึกษาภายใต้ร่มเงาของการสื่อสารก็นับเป็นการเปิดประตูให้ศาสตร์ทางการสื่อสารได้ทำการศึกษาครอบคลุมทุกสื่อที่สร้างขึ้นในปัจจุบันอันเป็นยุคของสารสนเทศ (Information Age)

บรรณานุกรม
ภาษาไทย
ชลูด นิ่มเสมอ. วาดเส้นสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2553.
ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. สัญวิทยา โครงสร้างนิยม หลังโครงสร้างนิยม กับการศึกษารัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2 . กรุงเทพฯ: วิภาษา, 2555.
ธีรยุทธ บุญมี. การปฏิวัติสัญศาสตร์ของโซซูร์ เส้นทางสู่โพสต์โมเดอร์นิสม์. กรุงเทพฯ: วิภาษา, 2551.
น. ณ ปากน้ำ (ประยูร อุลุชาฎะ). ความเข้าใจในศิลปะ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2543.
มณเฑียร ศุภโรจน์. การวิเคราะห์การใช้การ์ตูนสื่อความหมายเพื่อการรณรงค์โรคเอดส์ (พ.ศ. 2535-2539). วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสาขาสื่อสารมวลชน  บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.
สงวนศรี ตรีเทพประติมา. การวิเคราะห์งานวาดเส้นร่วมสมัยไทยในต้นศตวรรษที่ 21 (ค.ศ. 2000-2012). วิทยานิพนธ์ศิลปมหาบัณฑิต สาขาทฤษฎีศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2555.
สูจิบัตรนิทรรศการ Multiple drawing. จัดแสดง 24 สิงหาคม - 9 กันยายน 2535 ณ หอศิลป์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. กรุงเทพฯ : อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ, 2535.
ภาษาอังกฤษ
Anne D'Alleva. Methods & Theories of Art History. London: Laurence King, c2012.
Fiske, John. Introduction to Communication Studies. 2nd ed. London: Routledge, 1990.
Norman Bryson, Michael Ann Holly and Keith Moxey. Visual theory: painting and interpretation. Cambridge: Polity Press, 1991.
ข้อมูลออนไลน์
Termwiki. Aesthetic codes [Online].  Accessed 13 May 2015, Available from http://www.termwiki.com/EN:aesthetic_codes




[*] อาจารย์ประจำ ภาควิชาสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม 38 ถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160 ประเทศไทย

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

เนื่องจากนิทรรศการ "บ้าน"

โดย: สุริยะ ฉายะเจริญ


งานจิตรกรรมของรองศาสตราจารย์ปริญญา ตันติสุข มีความพิเศษเฉพาะตัวที่โดดเด่น งานจิตรกรรมถูกใช้เป็นพื้นที่แสดงรูปลักษณ์เชิงสัญญะที่เรียบง่ายด้วยรูปแบบเรียบนิ่งและขอบคม
 
ศิลปินเริ่มนำเสนอภาพที่คลี่คลายจากการ์ตูนมาสู่รูปร่างที่เรียบง่าย และใช้ทัศนธาตุแบบพื้นๆ (ตามแบบแนวทางของ modernist) เพื่อแสดงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงเรื่องราวที่อบอวลด้วยความอบอุ่นและสงบสุข
ขณะที่ต่อมาท่านเริ่มที่จะนำรูปร่างเรขาคณิตและเส้นแบบปฐมภูมิมาประกอบขึ้น (เส้นตั้ง นอน และโค้ง) โดยสื่อให้เห็นถึงแนวคิดทางพุทธศาสนา ซึ่งศิลปินใช้สัญลักษณ์ของสามเหลี่ยมเป็นตัวแทนของปัญญาหรือความเป็นพุทธะ
 
ในขณะที่ช่วงหลังท่านบูรณาการรูปร่าง (shape) ที่แบนเรียบง่ายกับสัญลักษณ์บางอย่างและเค้าโครงของภาพจิตรกรรมไทย มาใช้เป็นภาพแทนเพื่อเล่าเรื่องที่ยึดโยงระหว่างความเป็นตัวเองและวิถีชีวิตไทยที่อยู่ภายใต้โครงสร้างของพุทธศาสนาในสังคมไทย
 
จิตรกรรมในนิทรรศการชุดนี้ แม้จะไม่ได้แสดงให้ผู้ชมได้เห็นพัฒนาการของศิลปินอย่างเด่นชัดเท่ากับนิทรรศการย้อนหลังแบบเต็มที่ (retrospective exhibition) แต่ผลงานที่นำมาแสดงให้สาธารชนได้ชื่นชมในครั้งนี้ย่อมทำให้เห็นถึงความเป็นเลิศขององค์ความรู้ ทักษะทางจิตรกรรม ประสบการณ์เชิงสุนทรียะ และการเข้า-ออกรหัสของการสื่อสารผ่านจิตรกรรมของศิลปิน ที่ไม่เพียงเป็นตัวอย่างของบุคคลที่ทำงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ชมได้เสพผลงานที่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพอันเป็นเลิศ มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในวงการศิลปะไทยร่วมสมัย แม้ในเวลานี้ก็ตาม
...

“บ้าน” นิทรรศการศิลปะ โดย ปริญญา ตันติสุข
3-24 มีนาคม 2559
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ