เรียบเรียงโดย: ดร.สุริยะ ฉายะเจริญ jumpsuri@gmail.com
ความหมายของภัณฑารักษ์
ภัณฑารักษ์ (Curator) คือ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการ
ความหมายความตัวอักษร ก็คือ “ผู้ดูแลรักษาคลังเก็บสิ่งของ”
ภัณฑารักษ์ต้องมีความชำนาญเฉพาะด้านเป็นอย่างดี นอกเหนือจากความรู้ด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ทั่วไป เช่น หากต้องดูแลพิพิธภัณฑ์อัญมณี ก็จะต้องมีความรู้ด้านอัญมณีศาสตร์ หากต้องดูแลนิทรรศการศิลปะ ก็ต้องมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ศิลป์หรือแนวความคิดร่วมสมัยที่เกี่ยวข้อง หรือหากต้องดูแลเทศกาลภาพยนตร์ ก็ต้องมีความรู้ด้านภาพยนตร์หรือทัศนศิลป์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของภัณฑารักษ์แตกต่างกันไป ตามลักษณะเฉพาะของสถานที่จัดแสดง
ความสำคัญของภัณฑารักษ์
ภัณฑารักษ์นับเป็นตำแหน่งที่สำคัญและรับผิดชอบสูงในแง่บริหารและปฏิบัติการ
โดยมีความสำคัญ คือ
1.
ภัณฑารักษ์เป็นผู้มีความสำคัญในหน้าที่การจัดหาวัตถุจัดแสดงนิทรรสการ
2.
ภัณฑารักษ์เป็นผู้มีความสำคัญในหน้าที่การจัดหมวดหมู่วัตถุ
3.
ภัณฑารักษ์เป็นผู้มีความสำคัญในหน้าที่การจัดแสดงวัตถุในที่จัดแสดง
4.
ภัณฑารักษ์เป็นผู้มีความสำคัญในหน้าที่การดูแลและซ่อมแซมวัตถุสะสม
5.
ภัณฑารักษ์เป็นผู้วางแผนจัดการและแผนการให้บริการในนิทรรศการ
6. ภัณฑารักษ์เป็นผู้มีส่วนอย่างมากในการประเมินราคาของศิลปวัตถุ
บทบาทของภัณฑารักษ์
"ภัณฑารักษ์นิทรรศการ" (exhibitions
curator) หรือ "ภัณฑารักษ์ศิลปะ" (art curator) คือผู้รับผิดชอบในการจัดนิทรรศการศิลปะ
ในบริบทศิลปะร่วมสมัย คำว่า "ภัณฑารักษ์"
หมายถึง บุคคลที่เลือกและตีความผลงานศิลปะ หลายครั้ง นอกจากการเลือกผลงานแล้ว
ภัณฑารักษ์มักจะรับผิดชอบในการเขียนบทความในหนังสือ บทความในสูจบัตรศิลปะ
และเนื้อหาอื่น ๆ ที่สนับสนุนการจัดนิทรรศการนั้น ๆ
ภัณฑารักษ์ดังกล่าวนี้อาจเป็นพนักงานประจำ หรือ
"ภัณฑารักษ์รับเชิญ" (guest curators) จากองค์กรหรือมหาวิทยาลัยในเครือ
หรือ "ภัณฑารักษ์อิสระ" (freelance curators) ที่ทำงานให้คำปรึกษากับนิทรรศการนั้น
"ภัณฑารักษ์ของสะสม (collections
curator) "ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์" (museum curator) หรือ "ผู้ดูแล" (keeper)
สถาบันมรดกทางวัฒนธรรม (เช่น หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด หรือหอจดหมายเหตุ)
เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาผลงานสะสมของสถาบันนั้น ๆ และยังเกี่ยวข้องกับตีความหมายวัตถุทางวัฒนธรรมรวมถึงสิ่งประดิษฐ์ทางประวัติศาสตร์
(Interpretation of heritage material including historical artifacts)
บทบาทของของภัณฑารักษ์ของสะสมจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับวัตถุที่จับต้องได้ เช่น งานศิลปะ ของสะสม สิ่งของทางประวัติศาสตร์ (historic items) หรือของสะสมทางวิทยาศาสตร์ (scientific collections)
ในกรณีองค์กรขนาดเล็ก ภัณฑารักษ์อาจมีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการจัดหาและแม้กระทั่งการดูแลผลงานสะสม
ซึ่งได้แก่
1.
ภัณฑารักษ์ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับวัตถุที่จะเลือก
2.
กำกับดูแลศักยภาพและเอกสารประกอบ
3.
ดำเนินการวิจัยโดยอิงจากผลงานสะสมและประวัติศาสตร์
4.
จัดเตรียมบรรจุภัณฑ์งานศิลปะที่เหมาะสมสำหรับการขนส่ง
5.
และแบ่งปันงานวิจัยกับสาธารณชนและชุมชนผ่านนิทรรศการและสิ่งพิมพ์
ในพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก เช่น พิพิธภัณฑ์ของสมาคมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ภัณฑารักษ์อาจเป็นพนักงานคนเดียวที่ได้รับค่าจ้าง ในกรณีสถาบันขนาดใหญ่ เช่น ในพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ หน้าที่หลักของภัณฑารักษ์ที่เพิ่มเติมจากที่กล่าวมาแล้วก็คือ คือ
1.
ภัณฑารักษ์ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่
2.
ภัณฑารักษ์ต้องเป็นนักวิจัยที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับวัตถุที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ (research on
objects)
3.
ภัณฑารักษ์ต้องเป็นผู้มีบทบาทในการแนะนำองค์กรในการรวบรวมวัตถุที่จัดแสดงให้แก่สาธารณชนได้ทราบ
(guide
the organization in its collecting)
ซึ่งในกรณีในกรณีสถาบันขนาดใหญ่ สามารถมีภัณฑารักษ์ได้หลายคน
โดยจะได้รับมอบหมายให้อยู่ในกลุ่มและพื้นที่เฉพาะ (เช่น ภัณฑารักษ์ของศิลปะโบราณ
ภัณฑารักษ์ของภาพพิมพ์และภาพวาด ฯลฯ) และมักจะดำเนินการภายใต้การดูแลของหัวหน้าภัณฑารักษ์
ในองค์กรดังกล่าว การดูแลทางกายภาพของวัตถุสะสมอาจได้รับการดูแลโดยผู้จัดการของพิพิธภัณฑ์
(museum
collections-managers) หรือโดยนักอนุรักษ์ของพิพิธภัณฑ์ (museum
conservators) โดยมีเอกสารและเรื่องการบริหาร (เช่น บุคลากร
การประกันภัย และสินเชื่อ เป็นต้น) และมีการบริหารจัดการโดยนายทะเบียนพิพิธภัณฑ์ (handled
by a museum registrar)
หน้าที่สำคัญของงานภัณฑารักษ์
1.
หน้าที่สำคัญของงานภัณฑารักษ์มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นเป็นผู้ที่ดูแลวัตถุจัดแสดงให้เหมาะสม
2.
ภัณฑารักษ์เป็นตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการ
3.
ภัณฑารักษ์ถือเป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างสถาบันที่ทำงานด้วยกับผู้เข้าชมนิทรรศการ
ภัณฑารักษ์เป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่จัดแสดงในนิทรรศการกับสาธารณชนผู้ชมผลงาน
ให้สาธารณชนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รับประสบการณ์ จากนิทรรศการนั้น ๆ
4.
ภัณฑารักษ์ทำหน้าที่เป็นคนเชื่อมองค์ความรู้และการสื่อสารไปสู่สาธารณะ
โดยภัณฑารักษ์ต้องวางบทบาทตัวเองเป็นนักวิชาการ นักวิจัย นักเขียน
และนักวิจารณ์ไปด้วย
เพื่อผลิตผลงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรอธิบายถึงวัตถุจัดแสดงหรือนิทรรศการที่จัดแสดงในหอศิลป์
พิพิธภัณฑ์ หรือพื้นที่จัดแสดงในประเภทต่าง ๆ
5.
ภัณฑารักษ์จึงเป็นทั้งผู้รู้
เป็นนักบริหาร นักจัดการ นักออกแบบ และครีเอทิฟในตัวเอง
เพราะจำเป็นต้องบริหารข้อมูลและนิทรรศการให้เกิดผลที่มีประโยชน์ต่อผู้ชมให้มากที่สุด
6.
ภัณฑารักษ์ถือเป็นอาชีพที่น่าจับตามองในอนาคตอันใกล้
เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับอัตราการเติบโตของเมืองที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย
ๆ รวมไปถึงสัมพันธ์กับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ในระดับนานาชาติ
การวิเคราะห์หน้าที่สำคัญของภัณฑารักษ์ได้เป็น
8 ประเด็นสำคัญ
1.
การรับวัตถุสะสม การจัดเก็บวัตถุ
และจัดแสดงผลงานสะสม
2.
การคัดเลือกเนื้อหาและการออกแบบนิทรรศการ
3.
การจัดการเรื่องการติดตั้งผลงานและวัสดุที่จัดแสดง
4.
การออกแบบ การจัดระเบียบ หรือจัดนำชมและการฝึกปฏิบัติการสำหรับสาธารณชน
5.
การเข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมกับประชาสังคมเพื่อส่งเสริมสถาบัน
6.
การกำกับและดูแลเจ้าหน้าที่ภัณฑารักษ์
เทคนิค และนักศึกษาฝึกงานที่เกี่ยวข้องกับสายงาน
7. การวางแผนและดำเนินโครงการวิจัยพิเศษที่เกี่ยวข้องกับวัตถุจัดแสดงหรือวัตถุสะสม
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน หน้าที่ภัณฑารักษ์ที่เพิ่มขึ้นมีส่วนเกี่ยวกับการระดมทุนและการส่งเสริมนิทรรศการ
(fundraising
and promotion) ซึ่งอาจรวมถึงการเขียนและทบทวนข้อเสนอทุน (include
writing and reviewing grant proposals) การตีพิมพ์บทความในวารสาร
และการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้
ภัณฑารักษ์หลายคนยังเข้าร่วมการประชุมและร่วมกิจกรรมในภาคสังคมด้วย
พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจกับอัตลักษณ์ของตนมากขึ้น
การสร้างพิพิธภัณฑ์ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยรักษาและเผยแพร่อัตลักษณ์ของตนได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้น ภัณฑารักษ์ จึงไม่ใช่แค่ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการอย่างที่หลายคนมักเข้าใจ
หากแต่เป็นผู้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ เรื่องราวของพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการนั้นๆ
อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
สามารถออกแบบวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างสร้างสรรค์
ในระดับนานาชาตินั้น ได้ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับอาชีพภัณฑารักษ์มาก
คนที่จะมาเป็นภัณฑารักษ์ต้องจบการศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะ
ไม่ใช่แค่จ้างใครก็ได้เข้ามาดูแลพิพิธภัณฑ์
ทักษะและบุคลิกที่ดีของคนที่เหมาะจะเป็นภัณฑารักษ์
1.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยช่างสังเกต
2.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่ชอบวิเคราะห์
3.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่รู้จักการวิจารณ์ด้วยทัศนคติในแง่ดี
4.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่ไม่ปิดกั้นข่าวสาร
5.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่ชอบและหลงใหลในงานศิลปะ
6.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่รักการอ่าน
7.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง
เห็นทุกเรื่องรอบตัวเป็นเรื่องสนุก
8.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่ติดตามข่าวสารรอบด้าน
ไฝ่รู้ รักการเรียนรู้เสมอ
9.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
10.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่รู้จัดคิดเชิงระบบและสังเคราะห์เนื้อหาให้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
11.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่มีทักษะในการสื่อสารที่ดี
12.
ภัณฑารักษ์ควรเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม
สายงานการทำงานของภัณฑารักษ์
ด้วยกระบวนการทำงานของโลกเปลี่ยนไป สายงาน
และหน้าที่ตำแหน่งงานของภัณฑารักษ์
จึงมีบทบาทเพิ่มเติมและครอบคลุมการทำงานมากยิ่งขึ้น
ซึ่งอาจถือเป็นเรื่องดีที่ท้าทายสำหรับคนที่หลงใหลและสนใจอาชีพนี้
อีกทั้งองค์กร หรือหน่วยงาน ภาครัฐ หรือเอกชนต่างๆ
ต่างก็ให้ความสนใจในอาชีพภัณฑารักษ์มากยิ่งขึ้น
เพราะด้วยขอบเขตการทำงานครอบคลุมถึงงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานศิลปะมากมาย
เช่น โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และวัตถุที่มีคุณค่าในเรื่องราวต่างๆ ได้แก่ อารยธรรม
ศิลปวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงทรัพย์สินอันมีค่าของแผ่นดิน
สถานที่ทำงานของภัณฑารักษ์
ภัณฑารักษ์ส่วนใหญ่ทำงานในพิพิธภัณฑ์ (museums), สวนสัตว์ (zoos), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (aquariums), สวนพฤกษศาสตร์ (botanical gardens),
ศูนย์ธรรมชาติ (nature centers) และสถานที่ทางประวัติศาสตร์
(historical sites) สภาพการทำงานจึงแตกต่างกันไป
บางคนใช้เวลาในการทำงานกับสาธารณชนโดยให้ความช่วยเหลืออ้างอิงและบริการด้านการศึกษา
ภัณฑารักษ์บางคนทำการวิจัยหรือบันทึกกระบวนการ
ซึ่งลดโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ภัณฑารักษ์ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับซ่อมแซมและติดตั้งผลงานในนิทรรศการ
หรือทำงานกับการขนส่งจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและความละเอียดสูงมาก
เพราะสัมพันธ์กับความปลอดภัยของวัตถุจัดแสดงโดยตรง
โดยสรุปแล้ว
ภัณฑารักษ์ต้องทำหน้าที่บริหารจัดการงานนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ ดูแลสถานที่จัดแสดงและสิ่งของที่จะนำมาจัดแสดง โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวข้องนับตั้งแต่ การสำรวจ การจัดหา การเก็บรวบรวม การจัดทำบันทึกหลักฐาน การศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ วิจัย การตรวจพิสูจน์เพื่อกำหนดอายุ ยุคสมัย ประวัติความเป็นมา การจำแนกประเภท การคุ้มครอง ดูแล อนุรักษ์ ซ่อมสงวนรักษา ไปจนถึงการจัดทำสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้และให้บริการทางการศึกษา การประเมินคุณค่า ตลอดจนการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุมัติอนุญาตในเรื่องต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง:
https://en.wikipedia.org/wiki/Curator
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น