มานิตย์ ศรีวานิชภูมิ เป็นศิลปินภาพถ่าย (Photographer) ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในวงการศิลปะปัจจุบัน
ผลงานของมานิตย์เต็มไปด้วยการเสียดสีสังคมที่ติดตลกแต่มีท่าทีจริงจัง
ผลงานของเขามักตั้งคำถามในเรื่องประวัติศาสตร์ สังคม และการเมือง ซึ่งในผลงานชุด พิ้ง ขาว น้ำเงิน เขาได้นำเอาธงชาติมาใช้ควบคู่กับรูปผู้ชายอ้วนสวมชุดสูทสีชมพูและร่วมกับสัญญะอื่น
ๆ อีกด้วย
“พิ้ง
ขาว น้ำเงิน #1 (เกียรติยศ)” ภาพถ่ายสี c print, ขนาด 35 x 29 ซม (2548)
ที่มา : นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร,
7 พฤศจิกายน - 17 ธันวาคม
2548
(สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2548),
70.
มานิตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ กับ อิ๋ง
กาญจนะวนิชย์ เอาไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลงานของเขาในชุดดังกล่าวเอาไว้ว่า
...ผมคิดว่าลัทธิบริโภคนิยมเอาลัทธิชาตินิยมมาทำมาหากิน...ไอ้เรื่องแคมเปญชาตินิยม
หรือรักชาตินั้น มันมักถูกรัฐบาลเกือบทุกยุคทุกสมัยใช้เป็นข้ออ้างมาตลอด
มันเหมือนกล่องกระดาษสีธงชาติ
ที่เอาเข้าจริงแล้วเนื้อในของสินค้าจะมีสรรพคุณตรงตามข้างกล่องหรือไม่นั้นมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง...แต่ก่อนตัวละครการเมืองที่พูดเรื่องรักชาตินั้น
จะเป็นบุคคลในเครื่องแบบ คือเผด็จการทหารอย่างที่เรารู้กัน
แต่ในวันนี้ตัวละครเปลี่ยนไปเป็นบุคคลใส่สูทเป็นนักธุรกิจหรือจะพุดตรง ๆ คือ
นายทุน...
...เรื่องตัวงานผมแบ่งออกได้ประมาณ
2 กลุ่ม คือ
กลุ่มแรกเป็นเรื่องอารมณ์ของการแสดงความรักชาติ (sentiment) จะเป็นพิ้งค์แมนยืนเดี่ยว
ๆ หน้าฉากสีน้ำเงิน แสดงอาการองอาจ ฮึกเหิม
เมื่อห่มธงชาติเหมือนเวลาเราเห็นนักกีฬาหรือนักมวยใช้ธงห่มตัวก่อนขึ้นเวที
บางรูปก็แสดงการอาการซาบซึ้งสุดขีดแบบที่เราเห็นแคมเปญรักชาติของรัฐบาลทางโทรทัศน์...
...ส่วนในกลุ่มที่สองก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
“ผู้นำและผู้ตาม” ผู้นำคือพิ้งค์แมน เป็นผู้นำที่มีภาพทันสมัย
ที่ไม่ต้องแต่งชุดทหารอีกแล้ว
เป็นผู้นำใส่สูทเป็นมิตรสดใสไม่เคร่งขรึมแบบทหารในอดีต ส่วนผู้ตามคือเด็กไทย
ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เด็ก ๆ แต่งชุดลูกเสือเพราะว่า
ถ้าโยงเรื่องลูกเสือก็จะเป็นเรื่องการปลูกฝังความรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ซึ่งเป็นความคิดที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุครัชกาลที่
6 …เป็นชาตินิยมแบบเก่า...
...คำว่าชาติมันถูกทำให้นึกถึงการชูธง
เป็นพวกเดียวกัน ต้องคิดเหมือนกัน ต้องเฮไหนเฮนั่น เพราะฉะนั้นคำว่า “ชาติ”
หรือ Nation ความหมายของมันถูกทำให้เสื่อม
และแคบลง...ผมเยาะเย้ยขบวนการสร้างมายาคติแห่งความเป็นชาติ
อยากให้คนตระหนักว่าแท้จริงแล้ว ชาตินิยมคืออะไร...ทันทีที่มีเรื่องชาติเมื่อไร
ก็ต้องมีเขา มีเรา มันต้องมีศัตรูทันที เพราะชาตินิยมจะอยู่ได้มันก็ต้องมีศัตรู ผมรักบ้านเมืองนี้
ผมถึงต้องล้อเลียนด้วยความเป็นห่วง ด้วยความหวังดี
เพราะไม่อยากเห็นเมืองไทยเป็นชายอ้วนใส่สูทสีชมพู[2]
“พิ้ง ขาว น้ำเงิน #2
(ซาบซึ้ง)” ภาพถ่ายสี c print, ขนาด 24x29 ซม.
(2548)
ที่มา : นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร,
7
พฤศจิกายน -
17
ธันวาคม 2548
(สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2548),
70.
“พิ้ง
ขาว น้ำเงิน #3 (หอม)” ภาพถ่ายสี
c print, ขนาด 24 x 29 ซม. (2548)
ที่มา : นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร,
7
พฤศจิกายน -
17
ธันวาคม 2548
(สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2548),
70.
“พิ้ง
ขาว น้ำเงิน #4
(อนาคต)” ภาพถ่ายสี c
print, ขนาด 57 x 47ซม.(2548)
ที่มา : นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร,
7
พฤศจิกายน -
17
ธันวาคม 2548
(สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2548), 67.
ผลงานของมานิตย์ ศรีวานิชภูมิที่สร้างขึ้นเป็นลักษณะที่มีการจัดฉากเพื่อสร้างภาพจำลอง ซึ่งสิ่งที่ปรากฏในภาพแม้จะมีการเน้นเนื้อหาทางความงามในด้านการจัดแสง การใช้สี และจัดวางองค์ประกอบที่ลงตัวก็ตาม แต่สาระของผลงานกลับมิใช่รูปลักษณ์ภายนอก หากแต่เป็นประเด็นทางความคิดที่ศิลปินได้สื่อสารผ่านสัญญะต่าง ๆ ที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นคนใส่สูทสีชมพู ธงชาติไทย เด็กนักเรียน และฉากสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงสื่อที่มีสารคือแนวความคิดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ผลงานของมานิตย์ ศรีวานิชภูมิที่สร้างขึ้นเป็นลักษณะที่มีการจัดฉากเพื่อสร้างภาพจำลอง ซึ่งสิ่งที่ปรากฏในภาพแม้จะมีการเน้นเนื้อหาทางความงามในด้านการจัดแสง การใช้สี และจัดวางองค์ประกอบที่ลงตัวก็ตาม แต่สาระของผลงานกลับมิใช่รูปลักษณ์ภายนอก หากแต่เป็นประเด็นทางความคิดที่ศิลปินได้สื่อสารผ่านสัญญะต่าง ๆ ที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นคนใส่สูทสีชมพู ธงชาติไทย เด็กนักเรียน และฉากสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงสื่อที่มีสารคือแนวความคิดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“พิ้ง
ขาว น้ำเงิน #5
(ว่าตามฉัน)” ภาพถ่ายสี c print, ขนาด 35 x 29 ซม. (2548)
ที่มา : นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร,
7
พฤศจิกายน -
17
ธันวาคม 2548
(สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2548),
68.
“พิ้ง
ขาว น้ำเงิน #6 (ตามฉันมา)” ภาพถ่ายสี c print, ขนาด 49 x
59 ซม. (2548)
ที่มา
: นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, นิทรรศการการเมืองร่วมสมัย ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร,
7
พฤศจิกายน - 17
ธันวาคม 2548 (สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2548), 69.
แม้ผลงานของมานิตย์จะเป็นภาพถ่ายซึ่งนับเป็นสื่อที่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะได้ดีไม่ต่างจากผลงานจิตรกรรม
ประติมากรรม หรือรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะผลงานในชุดดังกล่าวนี้ ก็จะเห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างจากผลงานภาพถ่ายโดยทั่วไป ศิลปินได้จัดฉากขึ้นมาแล้วถ่ายภาพเพื่อนำเสนอประเด็นทางความคิดมากกว่าจะเน้นไปที่คุณค่าทางความงามแบบอุดมคติ
ธงชาติไทยที่ปรากฏในผลงานชุดนี้ศิลปินจงใจที่จะแสดงความชัดเจนค่อนข้างมาก ทั้งนี้เนื่องด้วยแนวคิดที่ศิลปินเองต้องการสะท้อนแนวคิดชาตินิยม ความรักชาติ ความคลั่งชาติ ที่อยู่ในบริบทต่าง ๆ ในสังคมไทยผ่านสัญลักษณ์ของธงชาติไทยอันเป็นเครื่องหมายรูปธรรม ศิลปินใช้ธงชาติไทยเป็นตัวเชื่อมโยงเข้าสู่ประเด็นชาตินิยมและใช้ภาพลักษณ์ของผู้ชายชุดสูทสีชมพูอันหมายถึงผู้ที่มีอำนาจสังคมเป็นผู้แสดงบทบาทร่วมกับธงชาติไทย ศิลปินจงใจที่จะเสียดสีประชดประชันชาตินิยมที่มีการปลุกขึ้นใหม่ในยุคร่วมสมัย ซึ่งแม้ผลงานชุดนี้จะมิได้สรุปถึงประเด็นแนวคิดชาตินิยมว่าควรจะมีทิศทางอย่างไร แต่ก็เป็นส่วนสะท้อนที่สำคัญในการสื่อสารไปสู่สังคมให้ตระหนักถึงการใช้ชาตินิยมในเส้นทางที่ไม่คลั่งไคล้จนเกิดขอบเขตที่สมเหตุสมผล
ธงชาติไทยที่ปรากฏในผลงานชุดนี้ศิลปินจงใจที่จะแสดงความชัดเจนค่อนข้างมาก ทั้งนี้เนื่องด้วยแนวคิดที่ศิลปินเองต้องการสะท้อนแนวคิดชาตินิยม ความรักชาติ ความคลั่งชาติ ที่อยู่ในบริบทต่าง ๆ ในสังคมไทยผ่านสัญลักษณ์ของธงชาติไทยอันเป็นเครื่องหมายรูปธรรม ศิลปินใช้ธงชาติไทยเป็นตัวเชื่อมโยงเข้าสู่ประเด็นชาตินิยมและใช้ภาพลักษณ์ของผู้ชายชุดสูทสีชมพูอันหมายถึงผู้ที่มีอำนาจสังคมเป็นผู้แสดงบทบาทร่วมกับธงชาติไทย ศิลปินจงใจที่จะเสียดสีประชดประชันชาตินิยมที่มีการปลุกขึ้นใหม่ในยุคร่วมสมัย ซึ่งแม้ผลงานชุดนี้จะมิได้สรุปถึงประเด็นแนวคิดชาตินิยมว่าควรจะมีทิศทางอย่างไร แต่ก็เป็นส่วนสะท้อนที่สำคัญในการสื่อสารไปสู่สังคมให้ตระหนักถึงการใช้ชาตินิยมในเส้นทางที่ไม่คลั่งไคล้จนเกิดขอบเขตที่สมเหตุสมผล
บทความนี้ตัดตอนและเรียบเรียงใหม่จากวิทยานิพนธ์ของสุริยะ ฉายะเจริญ เรื่อง “ธงชาติไทยในศิลปะร่วมสมัย”
หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต ภาควิชาทฤษฎีศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
[1] สัมภาษณ์ มานิต ศรีวานิชภูมิ โดย อิ๋ง กาญจนะวนิชย์, “พิ้งค์/ขาว/น้ำเงิน” ใน นิทรรศการนีโอ-ชาตินิยม, 65-66.
[2] เรื่องเดียวกัน, 71-72.