วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

อย่าเป็นแค่เพียงผู้รับสาร


โดย: สุริยะ ฉายะเจริญ (http://www.facebook.com/suriya.chaya)

            การใช้ชีวิตที่ดูราวกับว่าทุกห้วงวินาทีเต็มไปด้วยธุระมหาศาล มักคล้ายกับการที่เราเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ โดยที่มีรายการโทรทัศน์ต่างๆ นานาโลดแล่นอยู่บนผืนจอแก้วอยู่ตลอดเวลา รายการโทรทัศน์ต่างๆ ล้วนทำให้เราเกิดความบันเทิงไม่มากก็น้อย ทั้งที่อุดมไปด้วยสาระก็มาก หรือแม้แต่เรื่องซุบซิบนินทาของชาวบ้านก็มี ทั้งหลายทั้งปวงล้วนทำให้เราผู้ซึ่งอยู่ในสถานะผู้รับสารเป็นเพียงเครื่องมือที่มีหน้าที่รับรู้ข้อมูลอันมากมายจนแทบจะหยุดยั้งความพรั่งพรูไม่ได้ ชีวิตที่ติดอยู่กับธุระต่างๆ อันมากมายในแต่ละวันก็ล้วนเป็นเช่นนั้น
            หรือบางคนก็ใช้ชีวิตราวกับโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนที่ไม่ต้องปิดเครื่อง เพราะการเปิดเครื่องโทรศัพท์ตลอดเวลานั้นก็เพื่อการติดต่อสื่อสารทั้งทางเสียงและรับข้อมูลข่าวสารที่ลอยอยู่บนสังคมออนไลน์ ซึ่งข้องมูลข่าวสารก็มีทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับตัวเองโดยตรงหรือแม้กระทั่งเกี่ยวโยงกับผู้อื่นในหลายเรื่อง จนบางทีเราเองก็เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของของเครื่องจักรสมัยใหม่ที่ทำงานตลอดเวลาอย่างไม่สนใจปัจจัยใกล้ตัวอย่างน่าเสียดาย
            การใช้ชีวิตที่ดูราวกับเป็นการอุทิศให้กับสาระต่างๆ ภายนอก อาจจะถือเป็นชีวิตเพื่อการได้รับและการเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ นั้น ทั้งในระดับรูปธรรมอย่าง ทรัพย์สินเงินทอง หรือในระดับนามธรรม เช่น การยอมรับจากผู้อื่นหรือสถานะทางสังคม ก็ล้วนจะเป็นเหตุบางอย่างที่ทำให้เราเป็นกลจักรที่ถูกแรงขับตามสัญชาติญาณเดิมเป็นเจ้านายที่คอยควบคุมพฤติกรรม ซึ่งหากเราเข้าใจในเงื่อนไขของความเป็นจริงของทุกๆ สิ่ง และยอมรับได้กับทุกๆอย่าง ก็ไม่ใช่อะไรที่ต้องทุกข์ร้อนทุรนทุราย หากแต่ถ้าเราไม่สามารถค้นหาความหมายในการดำรองอยู่ของเงื่อนไขของความเป็นจริงซึ่งซุกซ่อนอยู่ในแต่ละภาคส่วนของเสี้ยวชีวิต เราก็ย่อมจะมีความทุกข์ทั้งกายและใจได้เช่นกัน
            บางทีเราก็มิอาจจะเป็นผู้รับสารได้ทั้งหมดทุกเรื่อง เพราะหลายครั้งการเป็นผู้รับสารแต่เพียงอย่างเดี่ยวอาจจะทำให้เราเองเป็นผู้ที่กลายเป็นจำเลยของการวิตกวิจารณ์ในสิ่งที่รับรู้ จนเกิดอาการสร้างอุปาทานยึดถือในความเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และนั่นหมายความว่าเราได้กลายเป็นนักโทษที่ถูกจิตใจของตัวเองเป็นผู้จับกุมโดยมีอำนาจด้านมืดในใจเป็นผู้คุมขังอย่างโดดเดี่ยว
            บางทีเราคงต้องปิดสวิตซ์เครื่องรับสัญญาณของเราบ้าง เพื่อตรวจสอบเครื่องกลภายในจิตใจที่ถูกใช้ตลอดเวลาโดยมิได้ซ่อมและและถูกละเลยอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ
            ...บางทีเราต้องหาที่พักพิงทางใจ เพื่อค้นหากำลังใจที่ค่อยๆ เลือนลับเต็มที.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น